ชายหาดกะรน "แม่เต่ามะเฟือง มีอายุประมาณ35ปี" ครั้งนี้เป็นการกลับมาวางไข่ครั้งที่ 2

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กล่าวว่า สำหรับแม่เต่ามะเฟือง มีอายุประมาณ 30-35ปี และครั้งนี้เป็นการกลับมาวางไข่ครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกขึ้นมาแล้วไม่ได้วางไข่แต่อย่างใด โดยจะนำไข่ไปเพาะฟักที่ศูนย์วิจัยฯ เนื่องจากจุดที่วางไข่นั้นน้ำทะเลท่วมถึง หากปล่อยไว้ไข่อาจจะเสียหายได้ และอาจจะถูกรบกวนจากผู้ที่มาใช้พื้นที่บริเวณชายหาดหรือสัตว์อื่นๆ โดยจะใช้เวลาในการเพาะฟักประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นจะนำกลับมาปล่อยยังจุดเดิม ขณะเดียวกันยังต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกประมาณ 10-15วัน เนื่องจากแม่เต่าจะกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง

เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเต่ามะเฟืองยักษ์น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ที่เคยขึ้นมาหาที่วางไข่เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ได้กลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง บริเวณชายหาดกะรน หน้าโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน, นายหิรัญ กังแฮ นักวิชาการฯ และเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อไปถึงจุดที่รับแจ้งมี เรือเอกเจด็จ วิชรศรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลกะรน พร้อมด้วย นางสาวอรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลกะรน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกะรน รวมถึง นางสาววิลัยพร และนางสาวกัญญนัท พงษ์กฐิน ผู้ซึ่งพบเต่ามะเฟืองขึ้นมาจากทะเล คอยเฝ้าสังเกตสถานการณ์ และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้อยีางเคร่งครัด โดยไม่เข้าไปรบกวนและส่งเสียงดัง ปล่อยให้แม่เต่ามะเฟืองขุดหลุมวางไข่และฝังกลบทรายจนแล้วเสร็จ และกลับลงทะเล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ร่วมหารือกับทางนายกเทศมนตรีตำบลกะรนและผู้ใหญ่บ้าน พบว่า บริเวณหลุมไข่เต่าดังกล่าวเป็นจุดที่น้ำทะเลท่วมถึง หากปล่อยไว้จะส่งผลกระทบกับไข่เต่าได้ จึงทำการขุดเพื่อนำไปทำการเพาะฟักยังศูนย์วิจัยฯ และตากการขุดเพื่อเคลื่อนย้าย พบไข่เต่าทั้งหมด 129 ฟอง เป็นไข่ดี 92 ฟอง และไข่ลม 37 ฟอง ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีการผสมน้ำเชื้อแล้วหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เต่ามะเฟืองกลับมาวางไข่ในพื้นที่ชายหาดทะเลภูเก็ต จึงอาจขอให้ชาวบ้านร่วมดูแลและหากพบการขึ้นมาวางไข่ของเต่าให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ คือ ห้ามเข้าไปรบกวนและส่งเสียงดัง คอยดูห่างๆเพื่อปล่อยให้เต่าได้วางไข่ตามธรรมชาติ